สาวๆหลายคนชื่นชอบ ดอลลี่อาย (dolly eye) รูปตาที่ดูสดใสกลมโตดูอ่อนเยาว์ เนื่องจากลักษณะดวงตาที่ดูกลมโตนี้ให้ลุคที่เหมือนตุ๊กตา ดูน่ารัก ดูแบ๊ว และช่วยเสริมให้บุคลิกดูมีความน่ารักและอ่อนกว่าวัย หลายท่านจะเห็นได้จากเทคนิคการแต่งหน้าของเหล่าดารา ศิลปิน หรือไอดอลเกาหลีหลายๆคน แต่แค่การแต่งหน้าทุกวันอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ยั่งยืนมากนัก บางวันที่เราอาจไม่สะดวกแต่งหน้า เฉพาะวันนี้แอดจะพามาทำความรู้จักเกี่ยวกับเทคนิคดอลลี่อายที่เพิ่มความยั่งยืนแบบไม่ต้องรอให้ลสวยแค่เวลาแต่งหน้ากันค่ะ

ดอลลี่อาย (Dolly Eye) คืออะไร?
ดอลลี่อายคือลักษณะของกล้ามเนื้อใต้ตาที่นูนขึ้นเล็กน้อยตามแนวขอบตาล่าง เวลายิ้มจะเห็นเด่นชัด ทำให้ดวงตาดูสดใส อ่อนเยาว์ และมีเสน่ห์คล้ายดวงตาของตุ๊กตา (Dolly) หรือไอดอลเกาหลี ซึ่งลักษณะนี้เป็นธรรมชาติของบางคนตั้งแต่กำเนิด แต่บางคนก็สามารถสร้างได้ด้วยหัตถการ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมัน หรือจัดเรียงไขมันใต้ตาเพื่อให้ได้ดอลลี่อายแบบลักษณะนี้
ความแตกต่าง ดอลลี่อาย & ถุงใต้ตา ?

จุดเปรียบเทียบ | ดอลลี่อาย | ถุงใต้ตา |
ตำแหน่ง | ชิดขอบตาล่าง ติดกับแนวขนตา | อยู่ต่ำกว่าขอบตาลงมาเล็กน้อย จะกินพื้นที่กว้างบริเวณใต้ตา มีขนาดใหญ่ |
ลักษณะ | กล้ามเนื้อหรือเนื้อเนียนๆ นูนเล็กน้อย | ดูพอง ย้อย บวม หรือหย่อน ดูไม่กระชับ มีริ้วรอยร่วมด้วย |
เกิดขึ้นเมื่อ.. | มักเห็นชัดเวลายิ้ม เห็นได้ตลอดเวลา | ไม่เกี่ยวกับการยิ้มหรือไม่ยิ้ม จะเห็นเป็นถุงใต้ตาตลอด |
ความรู้สึกเมื่อสัมผัส | ตึง แน่น ไม่ย้วย | นิ่ม หย่อน หรือมีถุงนูนหย่อน |
ภาพลักษณ์/ความงาม | ทำให้ดูน่ารัก สดใส มีเสน่ห์ ดูอ่อนเยาว์ | ทำให้ดูเหนื่อยล้า มีอายุ |
การแก้ไข | หากท่านอยากมีดอลลี่อาย สามารถทำเพิ่มได้โดย ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมันหน้า หรือ การจัดเรียงไขมันใต้ตา | การลดถุงใต้ตา โดยการผ่าตัดลดถุงใต้ตา การจัดเรียงไขมัน |
ใครเหมาะกับการทำ”ดอลลี่อาย”?
- ผู้ที่ไม่มีดอลลี่อายแต่ต้องการเพิ่มความหวานสดใสให้ใบหน้า
- ผู้ที่ใต้ตาแบนหรือดูโหล ทำให้ดูเหนื่อยล้า
- คนที่มีตาสองชั้นชัดเจนอยู่แล้ว และอยากเพิ่มมิติให้ดวงตา
- คนที่ไม่มีถุงใต้ตาหย่อนหรือไขมันสะสมมาก (ทำได้โดยการผ่าตัดจัดเรียงไขมันใต้ตาใหม่)
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มมิติให้ดวงตาดูอ่อนเยาว์ ดูเด็กลงเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่ต้องการให้ดวงตาดูกลมโต แบบสาวเกาหลี
“ดอลลี่อาย”สามารถทำวิธีไหนได้บ้าง
การเสริมดอลลี่อายมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับโครงสร้างผิวและความต้องการของแต่ละคน โดยทั่วไปมี 3 วิธีหลัก:
1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา Dolly eye
- เติมสาร Hyaluronic Acid (HA) ใต้ผิวเพื่อสร้างความนูนคล้ายกล้ามเนื้อใต้ตา
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปตาชั่วคราว (อยู่ได้ประมาณ 6–12 เดือน)
- ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลทันที
2. ฉีดไขมันใต้ตา (Fat Grafting)
- ดูดไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย (เช่น หน้าท้องหรือต้นขา) มาฉีดเติมใต้ตา หรือส่วนอื่นๆบนใบหน้าที่มีปัญหาได้ในครั้งเดียว
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ (บางส่วนที่ติดดีอาจอยู่ถาวร)
- อาจบวมช้ำบ้างในช่วงแรก ต้องใช้เวลาพักฟื้นเล็กน้อย
3. เสริมซิลิโคนใต้ตา (Dolly Eye Implant)
- เป็นการผ่าตัดใส่ซิลิโคนแถบเล็กๆ ไว้ที่ขอบตาล่าง
- ผลลัพธ์ถาวร เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว
- ต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
4. การจัดเรียงไขมันใต้ตา (Lower Eyelid Fat Repositioning)
เป็นเทคนิคศัลยกรรมหรือหัตถการที่ช่วยปรับรูปทรงบริเวณใต้ตา โดย ย้ายหรือจัดระเบียบไขมันใต้ตาเดิม (ซึ่งอาจยื่นเป็นถุงใต้ตาหรือหย่อนคล้อย) ให้กระจายตัวเนียนและนูนชิดแนวขอบตาล่าง ทำให้เกิดลักษณะคล้าย ดอลลี่อาย ที่ดูอ่อนเยาว์ สดใส และมีมิติ
จุดเด่นของการจัดไขมันใต้ตาเพื่อสร้าง”ดอลลี่อาย”
- เปลี่ยนถุงใต้ตาหย่อนให้กลายเป็นความนูนที่ดูเป็นธรรมชาติ
- เติมเต็มร่องน้ำตา (Tear Trough) ที่ลึกให้เรียบเนียน
- เสริมความนูนชิดขอบตาล่างในแนวที่สวยงาม
- ผลลัพธ์ถาวร ไม่ต้องเติมซ้ำบ่อยเหมือนฟิลเลอร์
- ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใส มีชีวิตชีวา
ใครเหมาะกับวิธีจัดเรียงไขมันใต้ตา?
- ผู้ที่มีถุงใต้ตาเล็กน้อยถึงปานกลางและยังมีผิวหนังเต่งตึง
- ผู้ที่ต้องการลดถุงใต้ตาและเพิ่มความนูนแบบดอลลี่อายในขั้นตอนเดียว
- ผู้ที่ไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์บ่อยๆ
- ผู้ที่มีร่องน้ำตาลึกหรือใต้ตาแบน ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย
Dolly Eye อยู่ได้นานแค่ไหน?
วิธีและระยะเวลาโดยเฉลี่ยของแต่ละหัตถการ
- ฉีดฟิลเลอร์ –> 6–12 เดือน
- ฉีดไขมันเติมหน้า –> บางส่วนอยู่ถาวร (ขึ้นอยู่การดูแลแต่ละบุคคล)
- เสริมซิลิโคน –> อยู่ถาวร
- จัดเรียงไขมันใต้ตา –> อยู่ถาวร
ข้อควรรู้ก่อนทำ”ดอลลี่อาย”
- ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินรูปตาก่อน ว่าเหมาะกับวิธีใดที่สุด
- หลีกเลี่ยงการทำดอลลี่อายหากมีถุงใต้ตาหย่อนชัดเจน เพราะอาจทำให้ดูบวมมากขึ้น (อาจต้องทำการตัดถุงใต้ตาร่วมด้วย เช่น เทคนิคจัดเรียงไขมันใต้ตา)
- เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตและน่าเชื่อถือเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย
- หลังทำอาจมีอาการบวม/ช้ำเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ข้อดีและข้อควรระวังของการทำ Dolly eye
ข้อดีของการทำดอลลี่อาย
- ทำให้ดวงตาดูสดใส อ่อนเยาว์ – เพิ่มความหวานให้ใบหน้า ลดความดุหรือความเหนื่อยล้า
- เสริมมิติให้ใบหน้าโดยไม่ต้องแต่งหน้าเยอะ – เห็นชัดแม้ไม่แต่งตา เหมาะกับลุคใสๆ หรือสาวเกาหลี
- เลือกวิธีได้หลากหลายตามความต้องการ – ทั้งแบบชั่วคราว (ฟิลเลอร์) และแบบถาวร (ไขมันหรือซิลิโคน)
- เห็นผลทันทีหรือในระยะสั้น – โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์ สามารถเห็นผลหลังทำเสร็จได้เลย
- ช่วยกลบความลึกของร่องใต้ตา – เหมาะกับผู้ที่มีใต้ตาโหล แบน หรือลึก ให้ดูเต็มขึ้นสดใสขึ้น
ข้อควรระวังของการทำดอลลี่อาย
- หากทำมากเกินไป อาจดูบวมไม่เป็นธรรมชาติ – ต้องประเมินอย่างเหมาะสมกับรูปตาและใบหน้าของแต่ละคน
- เสี่ยงบวม ช้ำ หรือไม่เท่ากัน – โดยเฉพาะในช่วงหลังทำใหม่ๆ หากไม่หาข้อมูลดีๆหรือทำกับผู้ไม่เชี่ยวชาญ
- หากมีถุงใต้ตาชัด อาจยิ่งทำให้ดูบวมเพิ่ม – ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าเหมาะกับหัตถการแบบไหนมากที่สุด
- ฟิลเลอร์อาจสลายเร็วหรือเป็นก้อนหากใช้ของไม่ได้มาตรฐาน – ต้องเลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ และแพทย์มีประสบการณ์ร่วมด้วย
ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนผ่าตัด”ดอลลี่อาย”
- งดยาและวิตามินบางชนิดล่วงหน้า 5–7 วัน เช่น แอสไพริน, วิตามินอี, โสม, น้ำมันปลา และยาละลายลิ่มเลือด เพื่อลดความเสี่ยงการช้ำหรือเลือดออกง่าย
- งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพื่อให้แผลสมานได้ดีและลดโอกาสบวม/ติดเชื้อ
- ตรวจสุขภาพเบื้องต้นก่อนผ่าตัด เช่น ความดันโลหิต, เบาหวาน, การแข็งตัวของเลือด ฯลฯ (ขึ้นอยู่กับคลินิกหรือแพทย์)
- ล้างหน้าให้สะอาด และงดแต่งหน้ามาในวันผ่าตัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และให้แพทย์ประเมินรูปตาได้ชัดเจนที่สุด
- เตรียมแว่นกันแดดไว้ใช้หลังผ่าตัด สำหรับป้องกันฝุ่น ลม แสงแดด และลดการระคายเคืองหลังทำ
การดูแลหลังผ่าตัด”ดอลลี่อาย”
- ประคบเย็นใน 48 ชั่วโมงแรก ช่วยลดบวมและอาการช้ำ ควรประคบบริเวณรอบดวงตาทุก 2–3 ชั่วโมง
- งดจับ ขยี้ หรือกดบริเวณที่ผ่าตัด เพื่อป้องกันซิลิโคนหรือไขมันเคลื่อน และลดความเสี่ยงแผลอักเสบ
- นอนยกศีรษะสูงในช่วง 3–5 วันแรก ลดอาการบวม โดยอาจใช้หมอนหนุน 2 ใบขณะนอนหลับ
- งดแต่งหน้ารอบดวงตาอย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือสารเคมีระคายเคืองบริเวณแผล
- หลีกเลี่ยงแสงแดด ฝุ่น และลมแรง ควรใส่แว่นกันแดดเมื่อต้องออกนอกบ้าน หรือเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้านก่อน
- ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เช่น ยาแก้อักเสบ ยาลดบวม หรือยาปฏิชีวนะ
- มาตามนัดเพื่อตรวจติดตามผล แพทย์จะประเมินตรวจดูอาการและบริเวณใต้ตาว่าเข้าที่ดีหรือไม่ หรือหากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดมาก บวมแดง หรือมีหนอง ควรรีบติดต่อแพทย์ทันที
“เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย การผ่าตัดดอลลี่อายควรดำเนินการโดยศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง หากคุณสนใจสามารถเข้ารับคำปรึกษาฟรีกับคุณหมออาร์ต ได้ที่HERS Clinic”
สรุป
ดอลลี่อาย (Dolly Eye) คือลักษณะของกล้ามเนื้อใต้ตาที่นูนเล็กน้อยแนบชิดขอบตาล่าง ช่วยให้ดวงตาดูหวาน สดใส และมีเสน่ห์คล้ายดวงตาตุ๊กตา ซึ่งสามารถเสริมได้ทั้งด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมัน หรือผ่าตัดเสริมซิลิโคน ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่สวยและเป็นธรรมชาติขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของรูปหน้าแต่ละบุคคล จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ เพื่อวางแผนหัตถการให้เหมาะกับคุณที่สุดและปลอดภัยในระยะยาวค่ะ
Q&A : สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการทำดอลลี่อาย❓
Q : ดอลลี่อายคืออะไร?
A : ดอลลี่อายคือแนวกล้ามเนื้อใต้ตาล่างที่นูนขึ้นเวลายิ้ม ทำให้ดวงตาดูหวาน สดใส และอ่อนเยาว์คล้ายดวงตาตุ๊กตา โดยสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมัน ผ่าตัดเสริมซิลิโคน หรือจัดเรียงไขมันใต้ตา
Q : ดอลลี่อายกับถุงใต้ตาเหมือนกันไหม?
A : ไม่เหมือนกันค่ะ
- ดอลลี่อาย คือกล้ามเนื้อนูนใกล้ขอบตาล่าง ดูแน่นและน่ารัก
- ถุงใต้ตา คือไขมันที่หย่อนหรือบวม ดูโทรมและทำให้ดูมีอายุ
Q : ใครเหมาะกับการทำดอลลี่อาย?
A : คนที่ใต้ตาแบน ใต้ตาโหล หรืออยากเพิ่มความหวานให้ดวงตา แต่ต้องไม่มีถุงใต้ตาหย่อนมาก เพราะจะทำให้ดูบวมแทนที่จะน่ารัก. หรือหากมีใต้ตาที่เยอะมากอาจต้องพิจารณาผ่าตัดถุงใต้ตาพร้อมตกแต่งดอลลี่อายร่วมด้วย
Q : ทำแล้วจะดูโป๊ะหรือไม่เป็นธรรมชาติไหม?
A : หากทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และประเมินอย่างเหมาะสมกับใบหน้า ดอลลี่อายจะดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ แต่หากทำมากเกินไป อาจดูบวมและโป๊ะได้
Q : สามารถทำดอลลี่อายพร้อมกับหัตถการอื่นได้ไหม?
A: ได้ค่ะ เช่น ทำร่วมกับแก้ไขร่องน้ำตา ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือผ่าตัดถุงใต้ตา ขึ้นอยู่กับการประเมินโดยแพทย์