ในยุคที่ใครๆก็อยากมีหุ่นกระชับได้รูปโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด CoolSculpting ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยหลักการ “กำจัดเซลล์ไขมันด้วยความเย็น” ที่สามารถทำลายเฉพาะไขมันส่วนเกินโดยไม่กระทบต่อผิวหรือเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้การสลายไขมันเป็นเรื่องง่าย สะดวก ปลอดภัย และไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น ต้นแขน หน้าท้อง ต้นขา หรือเหนียง ที่แม้ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วก็ยังลดได้ยาก
การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting คืออะไร
CoolSculpting หรือการสลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis) เป็นนวัตกรรมลดสัดส่วนที่ช่วยทำลายเซลล์ไขมันเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัด ใช้ความเย็นควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำเพื่อทำลายเซลล์ไขมัน ร่างกายจะค่อยๆกำจัดออกไปตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินและต้องการปรับรูปร่างให้กระชับขึ้น
CoolSculpting มีกี่หัว แต่ละหัวต่างกันอย่างไร
CoolSculptingรุ่นใหม่ล่าสุด มีหัวทั้งหมด 5 แบบ ที่สามารถปรับใช้ได้เกือบทั้งตัว ครอบคลุมทั้งตำแหน่งใหญ่ ตำแหน่งเล็ก รวมถึงพื้นที่ที่มีไขมันที่ลดยาก ทำให้ผลลัพธ์การสลายไขมันมีความแม่นยำ สวยงาม และปลอดภัยมากขึ้น ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถกำจัดไขมันได้หลายตำแหน่งทั่วร่างกายในครั้งเดียว
1. CoolAdvantage
- เป็นหัวหลักและได้รับความนิยมมากที่สุด คิดเป็น 60–70% ของเคสทั้งหมด
- เหมาะกับผู้ที่มีไขมันปานกลาง
- สามารถใช้ได้ถึง 7 จุด ได้แก่ หน้าท้อง,เอว,ต้นแขน,หน้าอกผู้ชาย,ปีกหลัง,ต้นขาด้านใน และใต้ก้น
2. CoolAdvantage Petite
- ใช้ลดไขมันใน 7 จุดเดียวกันกับ CoolAdvantage
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันไม่หนามาก,รูปร่างเล็ก หรือผู้ที่เคยทำ CoolAdvantage มาแล้ว
- ออกแบบมาเพื่อเก็บรายละเอียดและใช้กับผู้ที่ต้องการความแม่นยำมากขึ้น
3. CoolAdvantage Plus
- หัวขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันมาก
- ใช้กับบริเวณกว้าง เช่น หน้าท้อง และ เอว
- ครอบคลุมพื้นที่ได้มากต่อครั้ง เห็นผลการลดไขมันได้ชัดเจน
4. CoolMini
- หัวขนาดเล็ก สำหรับบริเวณที่เข้าถึงยาก
- เหมาะกับการลดไขมันบริเวณ เหนียงใต้คาง, เนื้อใต้รักแร้ (นมน้อย), เหนือหน้าอกผู้หญิง, หรือ เหนือเข่า ที่ออกกำลังกายลดได้ยาก
5. CoolSmooth Pro
- หัวแบบแบน ใช้โดยไม่ต้องใช้แรงดูด
- ออกแบบมาสำหรับลดไขมัน เช่น ต้นขาด้านนอก และ ใต้สะโพก
- บางคลินิกยังประยุกต์ใช้ในการสร้าง six-pack look อีกด้วย
ตารางเปรียบเทียบหัว CoolSculpting ต่างกันอย่างไร
ชื่อหัว (Applicator) | เหมาะกับใคร | ตำแหน่งที่ใช้ | จุดเด่น |
CoolAdvantage | ผู้ที่มีไขมันปานกลาง | หน้าท้อง,เอว,ต้นแขน, หน้าอกผู้ชาย,ปีกหลัง,ต้นขาด้านใน,ใต้ก้น | หัวหลักที่ได้รับความนิยมมากที่สุด (~60–70% ของเคส) |
CoolAdvantage Petite | คนไขมันไม่หนามาก,คนตัวเล็ก,เคยทำ CoolAdvantage | เหมือน CoolAdvantage: หน้าท้อง,เอว,ต้นแขน, หน้าอกผู้ชาย,ปีกหลัง,ต้นขาด้านใน, ใต้ก้น | สำหรับผู้ที่ต้องการความแม่นยำสูง และเก็บรายละเอียดบริเวณเล็ก |
CoolAdvantage Plus | คนไขมันเยอะ | หน้าท้อง,เอว | หัวขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่กว้าง ลดไขมันได้ครั้งละมาก |
CoolMini | ผู้ที่มีไขมันเล็ก/ย้วย,พื้นที่เข้าถึงยาก | เหนียงใต้คาง,เนื้อใต้รักแร้ (นมน้อย),เหนือหน้าอกผู้หญิง,เหนือเข่า | หัวเล็ก เข้าถึงพื้นที่มุมแคบ ลดไขมันจุดเล็กได้ดี |
CoolSmooth Pro | ผู้ที่มีไขมันลดยาก | ต้นขาด้านนอก,บริเวณใต้สะโพก (บางคลินิกใช้ทำ six-pack) | หัวแบน ไม่ใช้แรงดูด เหมาะกับไขมันแน่นและดื้อ |
กลไกการทำงานของ CoolSculpting
หลักการคือ“เซลล์ไขมันไวต่อความเย็น” เมื่อถูกทำให้เย็นจัด เซลล์ไขมันจะเข้าสู่กระบวนการตายแบบธรรมชาติ(apoptosis)และร่างกายจะค่อยๆ กำจัดออกไปทางระบบน้ำเหลือง ผลลัพธ์จะค่อยๆเห็นชัดขึ้นในช่วง 1–3 เดือน
- เครื่องจะปล่อยความเย็นจุดเฉพาะเจาะจงเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
- เซลล์ไขมันไวต่อความเย็นมากกว่ากล้ามเนื้อหรือผิวหนัง → เซลล์ไขมันจึงถูกทำลาย แต่เนื้อเยื่อรอบข้างยังคงปลอดภัย
- เมื่อเซลล์ไขมันถูกทำลาย ร่างกายจะกำจัดออกไปเองอย่างถาวร
ข้อดีของ CoolSculpting
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยาสลบ
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- ลดสัดส่วนได้อย่างชัดเจนในบริเวณที่ทำ
- ผลลัพธ์ถาวรต่อเซลล์ไขมันที่ถูกทำลาย
- ไม่ทำลายเซลล์หรือเนื้อเยื่ออื่นๆบริเวณข้างเคียง
- ไม่ก่อให้เกิดพังผืดใต้ผิวหนัง
- หากน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น รูปร่างจะไม่เปลี่ยนแปรง เนื่องจากเซลล์ไขมันฝ่อตัวแบบ Apoptosis
- ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก US FDA
ข้อควรระวัง
- เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด ไม่ใช่วิธีลดน้ำหนัก
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์/ผู้ที่อยู่ระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ที่เพิ่งทำการผ่าตัดบริเวณตำแหน่งที่ต้องการรักษา
- อาจมีอาการบวม แดง ช้ำ หรือชาในบริเวณที่ทำชั่วคราว
- ผลลัพธ์ไม่ได้เห็นทันที ต้องรอร่างกายกำจัดไขมันออกไป
- โรคแพ้ความเย็น เช่น ลมพิษจากไอเย็น โรคกลัวความเย็น
- ควรทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัย
ผลลัพธ์ของการทำ
- ไขมันบริเวณที่ทำลดลงประมาณ 20–25% ต่อครั้ง
- เห็นผลชัดเจนขึ้นใน 2–3 เดือนหลังทำ
- ผลลัพธ์ถาวร ตราบใดที่ไม่กลับมาเพิ่มน้ำหนักมาก
Coolsculpting เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มี ไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดในบริเวณตำแหน่งต่างๆของร่างกาย เช่น พุง แขน ต้นขา เหนียง
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวคงที่ ไม่อ้วนมาก ต้องการความกระชับในตำแหน่งที่ดูดไขมันได้ยาก
- ผู้ที่ปรับรูปร่างโดยไม่สะดวกผ่าตัดหรือดูดไขมัน
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างให้กระชับขึ้นและสลายไขมันได้อย่างยั่งยืน
- คุณแม่หลังคลอดที่อยากได้ความกระชับและลดไขมันหน้าท้องหรือส่วนอื่นๆ
สามารถทำตำแหน่งใดได้บ้าง?
- บริเวณหน้าท้องบน–ล่าง และรอบเอว
- บริเวณต้นขาในและต้นขานอก
- บริเวณสะโพก/ปีกด้านหลัง(Fat bra)
- บริเวณต้นแขนในและต้นแขนนอก
- บริเวณเหนียงใต้คาง
- บริเวณนมน้อย หรือ หน้าอกผู้ชาย
การเตรียมตัวก่อนทำ
- ควรรักษาน้ำหนักให้นิ่ง ไม่ขึ้นลงมาก
- หลีกเลี่ยงการนวดแรงๆ หรือทำหัตถการอื่นในตำแหน่งเดียวกันก่อนทำ
- แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว หรือการใช้ยาให้แพทย์ทราบ
การดูแลหลังทำ
- อาจมีรอยแดง ช้ำ หรือชา → หายได้เองใน 1–2 สัปดาห์
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยระบบกำจัดไขมัน
- ออกกำลังกาย และควบคุมอาหารเพื่อคงผลลัพธ์
- สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
สรุป
CoolSculptingเป็นเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็นที่ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดและต้องการปรับสัดส่วนให้ดูดีขึ้น ผลลัพธ์ถาวรเมื่อดูแลน้ำหนักให้คงที่ อย่างไรก็ตามควรทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด