• TH/EN
  • 099-1890189
  • MRT สุทธิสาร ทางออก 4
  • จันทร์-เสาร์: 10.00 - 20.00 น.
  • TH/EN
  • 099-1890189
  • MRT สุทธิสาร ทางออก 4
  • จันทร์-เสาร์: 10.00 - 20.00 น.

CoolSculpting คืออะไร? รู้จักนวัตกรรมสลายไขมันด้วยความเย็น

ในยุคที่ใครๆก็อยากมีหุ่นกระชับได้รูปโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด CoolSculpting ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยหลักการ “กำจัดเซลล์ไขมันด้วยความเย็น” ที่สามารถทำลายเฉพาะไขมันส่วนเกินโดยไม่กระทบต่อผิวหรือเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้การสลายไขมันเป็นเรื่องง่าย สะดวก ปลอดภัย และไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น ต้นแขน หน้าท้อง ต้นขา หรือเหนียง ที่แม้ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วก็ยังลดได้ยาก


การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting คืออะไร

CoolSculpting หรือการสลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis) เป็นนวัตกรรมลดสัดส่วนที่ช่วยทำลายเซลล์ไขมันเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัด ใช้ความเย็นควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำเพื่อทำลายเซลล์ไขมัน ร่างกายจะค่อยๆกำจัดออกไปตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินและต้องการปรับรูปร่างให้กระชับขึ้น


CoolSculpting มีกี่หัว แต่ละหัวต่างกันอย่างไร

CoolSculptingรุ่นใหม่ล่าสุด มีหัวทั้งหมด 5 แบบ ที่สามารถปรับใช้ได้เกือบทั้งตัว ครอบคลุมทั้งตำแหน่งใหญ่ ตำแหน่งเล็ก รวมถึงพื้นที่ที่มีไขมันที่ลดยาก ทำให้ผลลัพธ์การสลายไขมันมีความแม่นยำ สวยงาม และปลอดภัยมากขึ้น ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถกำจัดไขมันได้หลายตำแหน่งทั่วร่างกายในครั้งเดียว

1. CoolAdvantage

  • เป็นหัวหลักและได้รับความนิยมมากที่สุด คิดเป็น 60–70% ของเคสทั้งหมด
  • เหมาะกับผู้ที่มีไขมันปานกลาง
  • สามารถใช้ได้ถึง 7 จุด ได้แก่ หน้าท้อง,เอว,ต้นแขน,หน้าอกผู้ชาย,ปีกหลัง,ต้นขาด้านใน และใต้ก้น

2. CoolAdvantage Petite

  • ใช้ลดไขมันใน 7 จุดเดียวกันกับ CoolAdvantage
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันไม่หนามาก,รูปร่างเล็ก หรือผู้ที่เคยทำ CoolAdvantage มาแล้ว
  • ออกแบบมาเพื่อเก็บรายละเอียดและใช้กับผู้ที่ต้องการความแม่นยำมากขึ้น

3. CoolAdvantage Plus

  • หัวขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันมาก
  • ใช้กับบริเวณกว้าง เช่น หน้าท้อง และ เอว
  • ครอบคลุมพื้นที่ได้มากต่อครั้ง เห็นผลการลดไขมันได้ชัดเจน

4. CoolMini

  • หัวขนาดเล็ก สำหรับบริเวณที่เข้าถึงยาก
  • เหมาะกับการลดไขมันบริเวณ เหนียงใต้คาง, เนื้อใต้รักแร้ (นมน้อย), เหนือหน้าอกผู้หญิง, หรือ เหนือเข่า ที่ออกกำลังกายลดได้ยาก

5. CoolSmooth Pro

  • หัวแบบแบน ใช้โดยไม่ต้องใช้แรงดูด
  • ออกแบบมาสำหรับลดไขมัน เช่น ต้นขาด้านนอก และ ใต้สะโพก
  • บางคลินิกยังประยุกต์ใช้ในการสร้าง six-pack look อีกด้วย


ตารางเปรียบเทียบหัว CoolSculpting ต่างกันอย่างไร

ชื่อหัว (Applicator)เหมาะกับใครตำแหน่งที่ใช้จุดเด่น
CoolAdvantageผู้ที่มีไขมันปานกลางหน้าท้อง,เอว,ต้นแขน, หน้าอกผู้ชาย,ปีกหลัง,ต้นขาด้านใน,ใต้ก้นหัวหลักที่ได้รับความนิยมมากที่สุด (~60–70% ของเคส)
CoolAdvantage Petiteคนไขมันไม่หนามาก,คนตัวเล็ก,เคยทำ CoolAdvantageเหมือน CoolAdvantage: หน้าท้อง,เอว,ต้นแขน, หน้าอกผู้ชาย,ปีกหลัง,ต้นขาด้านใน, ใต้ก้นสำหรับผู้ที่ต้องการความแม่นยำสูง และเก็บรายละเอียดบริเวณเล็ก
CoolAdvantage Plusคนไขมันเยอะหน้าท้อง,เอวหัวขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่กว้าง ลดไขมันได้ครั้งละมาก
CoolMiniผู้ที่มีไขมันเล็ก/ย้วย,พื้นที่เข้าถึงยากเหนียงใต้คาง,เนื้อใต้รักแร้ (นมน้อย),เหนือหน้าอกผู้หญิง,เหนือเข่าหัวเล็ก เข้าถึงพื้นที่มุมแคบ ลดไขมันจุดเล็กได้ดี
CoolSmooth Proผู้ที่มีไขมันลดยากต้นขาด้านนอก,บริเวณใต้สะโพก (บางคลินิกใช้ทำ six-pack)หัวแบน ไม่ใช้แรงดูด เหมาะกับไขมันแน่นและดื้อ

กลไกการทำงานของ CoolSculpting

หลักการคือ“เซลล์ไขมันไวต่อความเย็น” เมื่อถูกทำให้เย็นจัด เซลล์ไขมันจะเข้าสู่กระบวนการตายแบบธรรมชาติ(apoptosis)และร่างกายจะค่อยๆ กำจัดออกไปทางระบบน้ำเหลือง ผลลัพธ์จะค่อยๆเห็นชัดขึ้นในช่วง 1–3 เดือน

  • เครื่องจะปล่อยความเย็นจุดเฉพาะเจาะจงเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
  • เซลล์ไขมันไวต่อความเย็นมากกว่ากล้ามเนื้อหรือผิวหนัง → เซลล์ไขมันจึงถูกทำลาย แต่เนื้อเยื่อรอบข้างยังคงปลอดภัย
  • เมื่อเซลล์ไขมันถูกทำลาย ร่างกายจะกำจัดออกไปเองอย่างถาวร


ข้อดีของ CoolSculpting

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยาสลบ
  • ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
  • ลดสัดส่วนได้อย่างชัดเจนในบริเวณที่ทำ
  • ผลลัพธ์ถาวรต่อเซลล์ไขมันที่ถูกทำลาย
  • ไม่ทำลายเซลล์หรือเนื้อเยื่ออื่นๆบริเวณข้างเคียง
  • ไม่ก่อให้เกิดพังผืดใต้ผิวหนัง
  • หากน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น รูปร่างจะไม่เปลี่ยนแปรง เนื่องจากเซลล์ไขมันฝ่อตัวแบบ Apoptosis
  • ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก US FDA

ข้อควรระวัง

  • เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด ไม่ใช่วิธีลดน้ำหนัก
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์/ผู้ที่อยู่ระหว่างให้นมบุตร
  • ผู้ที่เพิ่งทำการผ่าตัดบริเวณตำแหน่งที่ต้องการรักษา
  • อาจมีอาการบวม แดง ช้ำ หรือชาในบริเวณที่ทำชั่วคราว
  • ผลลัพธ์ไม่ได้เห็นทันที ต้องรอร่างกายกำจัดไขมันออกไป
  • โรคแพ้ความเย็น เช่น ลมพิษจากไอเย็น โรคกลัวความเย็น
  • ควรทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัย


ผลลัพธ์ของการทำ

  • ไขมันบริเวณที่ทำลดลงประมาณ 20–25% ต่อครั้ง
  • เห็นผลชัดเจนขึ้นใน 2–3 เดือนหลังทำ
  • ผลลัพธ์ถาวร ตราบใดที่ไม่กลับมาเพิ่มน้ำหนักมาก


Coolsculpting เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มี ไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดในบริเวณตำแหน่งต่างๆของร่างกาย เช่น พุง แขน ต้นขา เหนียง
  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวคงที่ ไม่อ้วนมาก ต้องการความกระชับในตำแหน่งที่ดูดไขมันได้ยาก
  • ผู้ที่ปรับรูปร่างโดยไม่สะดวกผ่าตัดหรือดูดไขมัน
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างให้กระชับขึ้นและสลายไขมันได้อย่างยั่งยืน
  • คุณแม่หลังคลอดที่อยากได้ความกระชับและลดไขมันหน้าท้องหรือส่วนอื่นๆ


สามารถทำตำแหน่งใดได้บ้าง?

  • บริเวณหน้าท้องบน–ล่าง และรอบเอว
  • บริเวณต้นขาในและต้นขานอก
  • บริเวณสะโพก/ปีกด้านหลัง(Fat bra)
  • บริเวณต้นแขนในและต้นแขนนอก
  • บริเวณเหนียงใต้คาง
  • บริเวณนมน้อย หรือ หน้าอกผู้ชาย


การเตรียมตัวก่อนทำ

  • ควรรักษาน้ำหนักให้นิ่ง ไม่ขึ้นลงมาก
  • หลีกเลี่ยงการนวดแรงๆ หรือทำหัตถการอื่นในตำแหน่งเดียวกันก่อนทำ
  • แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว หรือการใช้ยาให้แพทย์ทราบ

การดูแลหลังทำ

  • อาจมีรอยแดง ช้ำ หรือชา → หายได้เองใน 1–2 สัปดาห์
  • ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยระบบกำจัดไขมัน
  • ออกกำลังกาย และควบคุมอาหารเพื่อคงผลลัพธ์
  • สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น


สรุป

CoolSculptingเป็นเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็นที่ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดและต้องการปรับสัดส่วนให้ดูดีขึ้น ผลลัพธ์ถาวรเมื่อดูแลน้ำหนักให้คงที่ อย่างไรก็ตามควรทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด